————————————————- ข้อมูลและภาพจาก:,,,,,
ต้น) และ Personal Statement เล็กๆ ตามด้วยการศึกษา ประวัติการทำงาน ทักษะ และความสำเร็จ (บางที่จะขอให้ใส่งานอดิเรกเข้าไปด้วย) และอย่าลืมทิ้งท้ายข้อมูลติดต่อของผู้อ้างอิงของเรา (อาจารย์หรือเจ้านายเก่า) เพราะทางบริษัทอาจติดต่อพวกเขากลับไปได้... ลองดูตัวอย่างด้านล่างเลย 8. เขียน Personal Statement ให้เหมาะกับงานที่ทำ Personal Statement คือย่อหน้าเปิดของ CV ที่พูดถึงตัวเราแบบสั้นๆ แต่เกี่ยวข้องกับงานหรือมหาวิทยาลัยที่เราต้องการสมัคร พูดง่ายๆ ก็คืออธิบายตัวเราและโกลของเรานั่นเอง พยายามใส่ว่า เราทำอะไรมาแล้ว กำลังทำอะไรอยู่ และตั้งเป้าว่าจะทำอะไรต่อไป (เรามองเห็นอนาคตการทำงานของเราอย่างไร) แต่อย่าใช้คำสรรพนามว่า 'I' ถ้าเป็นไปได้ เพราะจะฟังดูไม่เป็นทางการเอาเสียเลย 9. ไม่ต้องบอกเค้าว่าเรามีเรื่องแย่อะไรบ้าง การเขียน CV ว่า "หนูไม่ค่อยมีประสบการณ์อะไร" ไม่ได้ทำให้เราดูเป็นคนถ่อมตัว แต่ทำให้ผู้จ้างอยากจะทิ้ง CV เราลงถังขยะมากกว่า ทางที่ดีลองปรับจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็ง เช่น ถ้าเคยวาดการ์ตูนกับเพื่อน อาจจะบอกว่า "ได้รับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยการวาดภาพ" หรือถ้าเป็นคนอารมณ์ร้อน อาจบอกว่า "เป็นคนมีความมุ่งมั่นที่จะไปถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุด" แทน คงเห็นภาพมากขึ้นกับการเขียน CV อย่าเพิ่งตกใจไปว่าตัวเองไม่มีประสบการณ์เพราะว่าหลายๆ อย่างที่เราเคยทำก็สามารถเอามาใช้เป็นประสบการณ์ได้นะ:)
คนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่า CV (Curriculum Vitae) และ Resume ใช้แทนกันได้ เพราะทั้ง 2 สิ่งนี้ ต่างก็เป็นประวัติส่วนตัวฉบับย่อเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วสองสิ่งนี้มีความแตกต่างกันทั้งโครงสร้าง รูปแบบและการใช้งาน คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางบริษัทที่คุณไปสมัครงานถึงอยากได้ CV แต่บางบริษัทกลับอยากได้เรซูเม่ ไม่ต้องสงสัยอีกต่อไปเพราะ JobsDB มีคำตอบเรื่องความแตกต่างระหว่าง เรซูเม่กับ CV มาให้ค่ะ เรซูเม่กับ CV แตกต่างกันอย่างไร? เราได้รวบรวมความเหมือนและความต่าง รวมถึงการใช้งานที่ต่างกันของทั้ง CV (Curriculum Vitae) และ Resume มาทำเป็นคู่มืออย่างง่าย ๆ เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้ถูกต้องในสถานการณ์ต่าง ๆ ด้านล่าง ดังนี้ค่ะ 1. ความแตกต่างระหว่าง CV (Curriculum Vitae) และ Resume คืออะไร?
เลือกเว็บทำเรซูเม่ วิธีทำเรซูเม่ที่ง่ายที่สุดคือ ทำผ่านเว็บไซต์ เราสามารถทำเรซูเม่ใน Microsoft Word ได้ แต่ วิธีทำเรซูเม่ที่ง่ายที่สุด คือการทำออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ เว็บไซต์เหล่านี้จะมีรูปแบบเรซูเม่ให้เลือกมากมาย และสามารถปรับแต่งสี ฟอนต์ และรูปภาพได้ค่อนข้างง่ายและอิสระ 5 เว็บไซต์ทำเรซูเม่ที่นิยม 2. เลือกรูปแบบที่เหมาะสม ควรเลือกรูปแบบที่เหมาะกับทักษะ ความสามารถ ประสบการณ์ และตำแหน่งงานของเรา และ สิ่งที่ห้ามมองข้ามเลยก็คือ "ดีไซน์" เพราะหากคุณกำลังมอง หางาน ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ แต่เลือกดีไซน์ทางการเกินไป ก็อาจทำให้ดูไม่ปัง ในทางกลับกัน หากสมัครสายงานที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง แต่เรซูเม่มีลูกเล่นเยอะ หรือเลือกรูปถ่ายที่ใส่ชุดนักศึกษาหรือชุดครุย ก็อาจถูกมองว่าไม่เป็นมืออาชีพได้ รูปแบบเรซูเม่ที่นิยมมี 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. เรียงประวัติการทำงานตามเวลา (Chronical Resume) เรียงประวัติการทำงานตามเวลา โดยเริ่มจากงานล่าสุดก่อน และเน้นการใส่ระยะเวลาการทำงานในแต่ละที่ แต่ละตำแหน่ง เพื่อเน้นย้ำให้เห็นพัฒนาการด้านการทำงานของผู้สมัคร เ รซูเม่แบบเรียงประวัติการทำงานตามเวลา (Chronical Resume) ผู้สมัครที่เหมาะกับเรซูเม่แบบนี้ สมัครสายงานเดิม เปลี่ยนงานไม่บ่อย มีพัฒนาการในการทำงานสูง เด็กจบใหม่ ผู้สมัครที่ไม่เหมาะกับเรซูเม่แบบนี้ เปลี่ยนสายงาน เปลี่ยนงานบ่อย ทำงานไม่ต่อเนื่อง (มีช่วงพัก) เคล็ดลับ หากมีการเลื่อนตำแหน่งในที่ทำงานเดิม ควรแยกประสบการณ์ทำงานออกจากกัน เพื่อแสดงให้เห็นทักษะและความรับผิดชอบที่สูงขึ้น 2.
ทำไมต้องทำ CV ออนไลน์? คำตอบก็ไม่ยากเลย เพราะมัน ง่ายกว่าการทำและจัดหน้าเอง นั่นเองค่ะ เนื่องจากแบบฟอร์มของ CV นั้นค่อนข้างจะตายตัว ชัดเจน ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงอะไรมากอยู่แล้ว ทำให้อย่างไรเสียเพื่อนๆ ก็ไม่สามารถตกแต่งสีสันฉูดฉาดหรือตกแต่ง CV ของเพื่อนๆ ได้อยู่แล้ว การทำ CV ออนไลน์จึงอาจเป็นทางออกที่ดี เพื่อให้เพื่อนๆ ได้สร้าง CV ได้เร็วขึ้น นั่นเองค่ะ [CV ย่อมาจากอะไร!? ] พร้อม 3 เทคนิคการเขียนระดับโปร ไม่ได้โม้รับรองได้งานจริง! 5 เว็บไซต์ทำ CV ออนไลน์ มือใหม่ก็ทำได้ง่ายๆ!
Home » เรียนต่อ » องค์ประกอบของ CV/Resume ประวัติส่วนตัวควรใส่อะไรบ้าง? องค์ประกอบของ CV/Resume – การทำประวัติย่อส่วนตัวควรใส่ข้อมูลอะไรลงไปบ้าง?