ความหมายของประโยค ประโยค เกิดจากคำหลายๆคำ หรือวลีที่นำมาเรียงต่อกันอย่างเป็นระเบียบให้แต่ละคำมีความสัมพันธ์กัน มีใจความสมบูรณ์ แสดงให้รู้ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เช่น สมัครไปโรงเรียน ตำรวจจับคนร้าย เป็นต้น ส่วนประกอบของประโยค ประโยคหนึ่ง ๆ จะต้องมีภาคประธานและภาคแสดงเป็นหลัก และอาจมีคำขยายส่วนต่าง ๆ ได้ 1. ภาคประธาน ภาคประธานในประโยค คือ คำหรือกลุ่มคำที่ทำหน้าที่เป็นผู้กระทำ ผู้แสดงซึ่งเป็นส่วนสำคัญของประโยค ภาคประธานนี้ อาจมีบทขยายซึ่งเป็นคำหรือกลุ่มคำมาประกอบ เพื่อทำให้มีใจความชัดเจนยิ่งขึ้น 2. ภาคแสดง ภาคแสดงในประโยค คือ คำหรือกลุ่มคำที่ประกอบไปด้วยบทกริยา บทกรรมและส่วนเติมเต็ม บทกรรมทำหน้าที่เป็นตัวกระทำหรือตัวแสดงของประธาน ส่วนบทกรรมทำหน้าที่เป็นผู้ถูกกระทำ และส่วนเติมเต็มทำหน้าที่เสริมใจความของประโยคให้สมบูรณ์ คือทำหน้าที่คล้ายบทกรรม แต่ไม่ใช้กรรม เพราะมิได้ถูกกระทำ ชนิดของประโยค ประโยคในภาษาไทยแบ่งเป็น 3 ชนิด ตามโครงสร้างการสื่อสารดังนี้ 1. ประโยคความเดียว (เอกรรถประโยค) ประโยคความเดียว คือ ประโยคที่มีข้อความหรือใจความเดียว ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เอกรรถประโยค เป็นประโยคที่มีภาคประโยคเพียงบทเดียว และมีภาคแสดงหรือกริยาสำคัญเพียงบทเดียว หากภาคประธานและภาคแสดงเพิ่มบทขยายเข้าไป ประโยคความเดียวนั้นก็จะเป็นประโยคความเดียวที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น 2.
ผมถามคุณ พี่สาวหายป่วยแล้วหรือยัง (กรรม) ๘. สุนันท์เล่าว่า เขาไปเที่ยวทางเหนือสนุกมาก (กรรม) ๒. ประโยคความซ้อนที่มีประโยคย่อยทำหน้าที่คล้ายคำวิเศษณ์ขยายคำนามหรือขยายสรรพนาม และมีสันธาน ที่ ซึ่ง อัน เป็นเครื่องเชื่อม เช่น ๑. ท่านที่ร้องเพลงอวยพรโปรดมารับรางวัล ๒. เราหวงแหนแผ่นดินไทยอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเรา ๓. ฉันเห็นภูเขาซึ่งมีน้ำขังอยู่ข้างใต้ ๔. ครูที่ใกล้ชิดกับนักเรียนมากย่อมทราบอุปนิสัยของนักเรียน ๕. คนที่ประพฤติดีย่อมมีความเจริญในชีวิต ๖. ก้อยคอยไล่นกกระจอกที่มาขโมยข้าว ๗. พวกที่ออกมาตีนกอีลุ้มได้นำเรือเข้ามาหลบฝน คำที่เชื่อมประโยคหลักกับประโยคย่อยให้เป็นประโยคความซ้อนแบบนี้ได้แก่ ที่ ซึ่ง อัน เรา เรียกว่า ประพันธ์สรรพนาม หรือสรรพนามเชื่อมประโยค ๓. ประโยคความซ้อนที่มีประโยคหลักและประโยคย่อย และประโยคย่อยนั้น ๆ อาจทำหน้าที่เหมือนคำนามก็ได้ ทำหน้าที่เหมือนคำวิเศษณ์ก็ได้ จะมีสันธาน เมื่อ, จน, เพราะ, ตาม, ราวกับ, ให้, ทว่า, ระหว่างที่, เพราะเหตุว่า, เหมือน, ดุจดัง, เสมือน, ฯลฯ เป็นตัวเชื่อม เช่น ๑. เพื่อน ๆ กลับไปเมื่องานเลิกแล้ว ๒. ปลัดอำเภอทำงานหนักจนป่วยไปหลายวัน ๓. เธอนอนตัวสั่นเพราะกลัวเสียงปืน ๔.
กาพย์ยานี11 เพียงใจเรารักกัน..... ก็มิหวั่นต่อสิ่งใด อุปสรรคมากเพียงใด.... ขอเพียงใจเรามั่นคง เพียงใจเรารักกัน...... จิตใจมั่นและซื่อตรง รักนั้นก็ยืนยง...... รักมั่นคงปักลงใจ พอดีได้ฟังเพลงนี้ แล้วอยากเขียนกลอนขึ้นมา แต่สมองไม่เดิน ขอโทษด้วยนะคะ หากมันไม่เพราะเท่าไหร่ แหะๆ แสดงความคิดเห็น