สวัสดีชาวคลับคอลลาเคนโกะ คลับสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องเข่า มีคนทักเข้ามาถามกันเป็นจำนวนมากว่า เจ็บหัวเข่าเวลาลุก-นั่งหรือเดินขึ้น-ลงบันไดก็รู้สึกเจ็บที่หัวเข่า อาการเหล่านี้สาเหตุเกิดจากอะไร และต้องแก้ไขหรือมีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง วันนี้คลับคอลลาเคนโกะก็จะมาแนะนำวิธีแก้ไขและป้องกันให้ห่างจากอาการเหล่านี้! ข้อเข่า เป็นข้อที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายและเป็นอวัยวะหลักที่เราใช้ในการเคลื่อนไหวในทุกๆวัน เช่น การเดิน, วิ่ง, ลุก-นั่ง, ก้าวขึ้น-ลง หรือทุกการขยับตัวนั่งเอง โดยกระดูกบริเวณข้อเข่า จะมีกระดูกอ่อนหุ้มไว้ เรียกว่า "กระดูกอ่อนข้อต่อ หรือ กระดูกอ่อนในข้อ" มีลักษณะลื่นๆและมีสีขาวใส ทำหน้าที่ลดการเสียดสีของกระดูกขณะทำการเคลื่อนไหว แข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้สูง แต่หากกระดูกอ่อนนี้เกิดการเสื่อม ก็จะทำให้รู้สึกเจ็บทุกครั้งที่งอเข่าหรือเจ็บหัวเข่าเวลาลุก-นั่งนั่นเอง จะรู้ได้อย่างไรเมื่อกระดูกในข้อเสื่อม?
🔜Convert kTuk (BSC) -> Tuk (BSC) ได้ก่อน ประมาน 17:00 ไม่เกิน 18:00 🔜พรุ่งนี้เช้าน่าจะเห็นแล้วว่ามีคู่ฟาร์มอะไรบ้าง แล้ว Stake ได้เลย แต่ rewards เริ่มแจก 3 ทุ่ม 👉คู่Tuk-BNB LP จะเปิดก่อนตอน 3 ทุ่ม 21:00 เพื่อให้ราคา Tuk สมดุล (รอประกาศเพิ่ม) 🔜เปิดการมิ้น ttUSD ได้หลังจากฟาร์มเปิด 3 ชม. เวลา 24:00 👉ใครไม่อยากมิ้น รอ swap หลัง เที่ยงคืน ได้เลย ttUSD ควรจะประมาน $1 ดูราคาก่อน SWAP 👉Rewards แจกเป็น new Tuk (BSC) 👉 Bridge Tuk (BKC) -> kTuk (BSC) ใช้ Northbridge 👉 Convert kTuk (BSC) -> Tuk (BSC) ใช้ TukTuk Space (มี Sarun Release 30% 70% 7 วัน) Eg. Convert 10, 000 kTuk (BSC) -> Tuk (BSC) ได้รับเลย 3, 000 Tuk อีก 7, 000 ถูกล็อค 7 วัน ปล่อยวันละ 1, 000 (ในกรณีไม่ได้กด Harvest หน้าฟาร์ม) ถ้ากด Harvest ด้วย จะเคลมเท่าที่ปลดล็อคออกมา แล้วเริ่มนับ 7วันใหม่ 👉 การฟาร์มก็จะมี ระบบ Sarun Release เหมือนบน BKC Harvest 30% ล้อค 70% 👉kTuk (BSC) -> Tuk (BSC) ติด Sarun Release 👉Tuk (BSC) -> kTuk (BSC) ไม่ติด 🔥Gachapon มาติดๆกัน เร็วๆนี้ 🔥Marketplace มีดีลหลายร้านแล้ว เหลือรอแพลตฟอร์ม คู่ฟาร์ม 1️⃣ttUSD - BUSD 2️⃣ttUSD - Tuk 3️⃣ttUSD - mmUSD (MMP Stablecoin) การมิ้น 1️⃣Tuk (BSC) + BUSD -> ttUSD Eg.
1. โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด (benign paroxysmal positioning vertigo: BPPV) เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการเวียนหัวบ้านหมุน ที่พบได้บ่อยที่สุด โรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของหูชั้นใน โดยปกติภายในหูชั้นในจะมีอวัยวะควบคุมเกี่ยวกับการทรงตัวและการได้ยิน ในอวัยวะควบคุมเกี่ยวกับการทรงตัวมีตะกอนหินปูนที่เคลื่อนไปมา แต่ถ้าตะกอนหินปูนส่วนนี้หลุด ทำให้ตะกอนหินปูนนี้เคลื่อนที่ไปมา และส่งสัญญาณไปยังระบบประสาทส่วนกลาง กระตุ้นให้เกิดอาการเวียนหัว บ้านหมุนขึ้นได้ 2. โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere's disease) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นใน โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พบว่าอาการของโรคเป็นผลจากความผิดปกติของน้ำที่อยู่ภายในหูชั้นใน สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการสร้างน้ำในหูชั้นในมากขึ้น ท่อทางเดินน้ำในหูชั้นในแคบ ทำให้การไหลเวียนไม่สะดวก มีการดูดซึมน้ำในหูชั้นในกลับน้อยกว่าปกติ หรือเกิดจากภาวะภูมิแพ้ ทำให้เกิดอาการเวียนหัวบ้านหมุน ได้ 3. การอักเสบของหูชั้นใน (labyrinthitis) หูชั้นในอักเสบส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งมักมีประวัติการ เป็นหวัด หรือระบบทางเดินหายใจอักเสบนำมาก่อน แต่ก็อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย การบาดเจ็บที่ศีรษะ ภาวะเครียด ภูมิแพ้ หรือเป็นผลข้างเคียงจากยาบางชนิดก็ได้ 4.
💲💸💰 การมิ้น mmUSD ✅BUSD ($100) -> 100 mmUSD ($100) เสียค่า Minting Fees MMP 5% (MMP มูลค่า $5) ✅Redeem Fees เสีย 1% เป็น MMP ข้อมูล
เผยแพร่: 24 ม. ค. 2561 18:01 โดย: MGR Online หลายคนอาจเคยมีอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ เดินเซ หรือเข่าอ่อน ในขณะที่ลุกขึ้นยืนกะทันหัน และนั่นอาจจะเป็นที่มาของโรควูบ หรืออาการหน้ามืดเป็นลมหมดสติได้ ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากภาวะที่ไม่ปกติของร่างกาย ที่หลายคนอาจเข้าใจว่าเกิดมาจากภาวะอ่อนเพลีย ทั้งที่จริงแล้วมันเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งความเครียด ความดันเลือดต่ำ พักผ่อนน้อย จึงทำให้เลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ เป็นต้น และมันยังเป็นสัญญาณของโรคที่ซ่อนอยู่ในตัวเราอีกด้วย 10สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการวูบ 1. โรคโลหิตจาง จากการที่ร่างกายมีระดับฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ต่ำกว่าปกติ จะทำให้เกิดอาการหน้ามืดและวูบได้บ่อยครั้ง อาการดังกล่าว จึงอาจเกิดจากภาวะโลหิตจาง เนื่องจากร่างกายได้รับธาตุเหล็กน้อยเกินไป นอกจากนี้ในผู้หญิงที่รอบเดือนมามากกว่าปกติ ก็อาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจางและมีอาการหน้ามืดบ่อยๆ ได้เช่นกัน วิธีแก้ไข: สามารถแก้ได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก เช่น ตับ ผักใบเขียว ไข่แดง และเนื้อสัตว์ (เนื้อแดง) เป็นต้น และทานธาตุเหล็กเสริมที่แพทย์สั่งให้ (กรณีที่ไปปรึกษาแพทย์) 2.
เวลาลุก เวลาก้ม เวลานั่ง ปวดหัวแบบตึ๊บๆจี๊ดๆขึ้นมา3-5วิ กินยาแก้ปวดที่หมอให้มาหลังคลอดแล้วก็หายแต่ยังหนักหัวอยู่พอยาหมดฤทธิ์ก็กลับมาเป็นแบบเดิมช่วยแนะนำหน่อยค่ะทำยังไงถึงจะหายทรมาณมากบางทีปวดจนน้ำตาตก เขียนข้อความตอบกลับ ปวดที่หัวหรือแถวๆตรงขมับ หัวคิ้วคะ
การทานยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ รู้หรือไม่ว่าการทานยาบางชนิดก็อาจทำให้เกิดอาการวูบได้เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้แพทย์จึงไม่ค่อยแนะนำให้ซื้อยาทานเอง เพราะยาบางชนิดจะไปลดระดับความดันโลหิตให้ต่ำลง จึงมักจะเกิดอาการหน้ามืดได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อขยับเปลี่ยนท่า เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะทานยาอะไร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ และควรให้แพทย์สั่งจัดยาให้จะดีที่สุด หมายเหตุ: ยาลดความอ้วนก็เป็นตัวยาอีกชนิดหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดอาการเหล่านี้ได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด 6. ความผิดปกติของสมอง เมื่อสมองมีความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นภาวะหลอดเลือดสมองอุดตัน การเป็นโรคลมชักหรือภาวะอื่นๆ ก็เป็นผลให้เกิดอาการหน้ามืดได้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับอาการปวดศีรษะร่วมด้วย ดังนั้นหากมีอาการหน้ามืด วูบ และปวดศีรษะไม่ว่าจะปวดน้อยหรือปวดมาก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติของสมองโดยด่วน เพราะหากปล่อยไว้นานๆ อาจอันตรายถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต เพราะฉะนั้นอย่าชะล่าใจ 7. ไอแรงหรือเบ่งอุจจาระแรงๆ การไอ หรือการเบ่งอุจจาระแรงๆ จะทำให้ความดันเลือดตกอย่างรวดเร็ว จึงเกิดอาการวูบ และหน้ามืดแบบกะทันหัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการตัวเย็น เหงื่อชื้นร่วมด้วย โดยจะต้องอยู่นิ่งๆ สักพักเพื่อให้ความดันเข้าที่ แล้วอาการวูบก็จะค่อยๆ หายไปในที่สุด 8.