โพสเมื่อ 16/12/2021 09:29 น.
ป่าสงวนแห่งชาติ พ. ๒๕๐๗ มาตรา ๑๔ ยึดถือครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถางทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ๓. กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๙ ฐานเข้าไปยึดถือครอบครองก่นสร้าง เผาป่า ทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินในที่ดินของรัฐโดยไม่มีสิทธิครอบครอง หรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ๔. พ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ. ๒๕๓๕ มาตรา ๙๗ การกระทำหรือละเว้นกระทำด้วยประการใด โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ มีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายสูญหายหรือเสียหายไป และเมื่อ ๕ พ. ย. ๖๓ ปทส. ส่งสำนวนต่ออัยการแล้ว และไม่เพียงปารีณาคนเดียวที่ตกเป็นผู้ต้องหา นายทวี ไกรคุปต์ ผู้พ่อ เจอคดีรุกที่ดินรัฐ ที่ อ. สวนผึ้ง จ. ราชบุรี กว่าพันไร่ด้วย คดีในส่วนอาญา-แพ่งนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาสำนวนของอัยการ ครับ.... เรื่องนี้ จะว่าไป ค่อนข้างหนักหนา คุณปารีณาบอกว่าตัวชาเมื่อทราบคำตัดสิน เข้าใจเลย ถ้าเป็นผม คงถึงขั้นเป็นลมชัก เพราะมันเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงผลคดีทั้่งอาญา ทั้งแพ่งในอนาคต แต่มีอีก ๒-๓ คน ที่อาจตัวชาเหมือนปารีณา คือ ๓ แม่ลูก "นางสมพร-ชนาพรรณ-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" คือเมื่อ ๒๒ เม.
ตรัง จนกระทั่งพ้นโทษออกมาช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยหลังจากพ้นโทษครั้งล่าสุด เคยถูกตำรวจ สภ. นาโยง จับกุมคดียาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 10 เม็ด แต่กลับถูกศาลปล่อยตัวออกมาชั่วคราว จนกระทั่งมาก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น ส่วนพฤติการณ์ก่อเหตุเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ขอเงินจากผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นเงินที่ผู้ต้องหาเคยฝากไว้ เพื่อนำไปซื้อยาบ้า แต่ปรากฏว่าเงินดังกล่าวได้หมดไปแล้ว เนื่องจากผู้ต้องหาจะขอเงินจำนวนดังกล่าวที่ฝากไว้เป็นประจำ ครั้งละ 100-200 บาท จนเมื่อผู้เป็นแม่บอกว่าไม่มีแล้วทำให้ผู้ต้องหาได้ขับ รถ จยย. ออกจากบ้านพัก มาบ้านของผู้เป็นแม่ระยะทางห่างกันประมาณ 200 เมตร พร้อมด้วยไม้หน้าสาม โดยที่ผู้เป็นแม่ยืนอยู่ในโรงรถ ก่อนจะจอดรถและใช้ไม้ทุบเข้าศีรษะไปกว่า 10 ครั้งจนผู้เป็นแม่เสียชีวิตทันที โดยที่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน และขับหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ต้องหาได้ถูกกักขังอยู่ในห้องขัง สภ. นาโยง และยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากยังคงมีอาการหลอนจากฤทธิ์ของยาเสพติดอย่างรุนแรง และยังมีอาการคลุ้มคลั่งตลอด เจ้าหน้าที่จึงต้องรอให้ฤทธิ์ของยาเสพติดหมดลงก่อนจึงดำเนินตามตามขบวนการกฏหมายต่อไป.