01 nm • รังสีเอ็กซ์ (X-ray) มีความยาวคลื่น 0.
เทน้ำลงไปล้างในถังสีเดิม เมื่อเทสีออกไปในถังใบใหม่แล้ว ให้เทน้ำสะอาดในอัตราส่วนที่ระบุตามข้างถังลงในถังสีใบเดิม เพื่อล้างเอาสีที่ค้างอยู่ในถังออกมา โดยใช้แปรงเกลี่ยสีที่เกาะอยู่ตามถัง และฝาถังให้ละลายผสมไปกับน้ำ 3. เทน้ำล้างถังสี ลงในถังผสมสีที่เทเนื้อสีลงไป (ถังใบที่ 1) เมื่อเกลี่ยสีที่ติดค้างในถังสีให้ผสมกับน้ำสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็นำมาเทน้ำในถังใบที่ 1 ที่มีเนื้อสีอยู่ 4. ใช้แปรง หรือไม้ช่วยผสมสี หลังจากเทน้ำลงไปในถังใบที่ 1 แล้ว ให้ใช้แปรงหรือไม้พายในการช่วยคนผสมสีกับน้ำให้เป็นเนื้อเดียวกัน 5. เทสีเปลี่ยนลงในถังใบใหม่ (ถังใบที่ 2) แนะนำให้เทสีที่ผสมแล้ว ลงในถังใบใหม่ (ถังใบที่ 2) เพื่อให้มั่นใจได้ยิ่งขึ้นว่าเม็ดสีมีการแตกตัวที่ดีขึ้น แล้วคนต่อไปให้เนื้อสีไม่เป็นก้อน หรือติดที่ก้นถัง โดยเทสลับถังใบที่ 1 และ 2 แบบนี้ไปอีกประมาณ 2-3 รอบ (ขั้นตอนนี้แล้วแต่ความถนัดเลยครับ บางคนอาจจะใช้การผสมสีจบแค่ข้อ 4 ก็ได้ แต่สำหรับมือใหม่ที่ต้องการความมั่นใจว่าผสมเนื้อสีเข้ากันดี แนะนำให้ทำตามข้อนี้ด้วยครับ) 6. ผสมสีทาบ้านเสร็จเรียบร้อย! เพียงเท่านี้เราก็จะได้เนื้อสีทาบ้านที่พร้อมนำไปใช้งานแล้ว โดยวิธีสังเกตว่าสีของเราพร้อมนำไปใช้งานแล้วหรือไม่ คือการสังเกตเนื้อสีที่ผสมกับน้ำแล้วจะต้องเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่มีสีที่ยังเกาะกันเป็นก้อน หรือติดอยู่ที่ก้นถัง ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการผสมสีทาบ้าน 1.
เลือกสีให้เหมาะกับงาน หลายๆ ครั้งเรามักจะมีปัญหากับการนำสีที่ไม่เหมาะกับประเภทงานมาใช้ เช่น เอาสีทาภายในมาใช้ภายนอก เอาสีทาภายนอกมาใช้ ภายใน ซึ่งแน่นอนว่ามันจะเป็นปัญหาการใช้งานระยะยาวที่อาจจะได้สี และความทนทานที่ไม่ตรงตามจุดประสงค์ ดังนั้นตอนที่ไปเลือกซื้อให้อ่านฉลากให้ดี ว่าบริเวณที่คุณจะทาสีเป็นในบ้าน หรือนอกบ้าน เพื่อให้เนื้อฟิล์มสีทาบ้านทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และให้สีสันของตัวบ้านสวยงามได้ยาวนาน 2.
ถ้าผสมสีไว้นานแล้ว ยังใช้ได้หรือไม่? หลายคนอาจจะแค่ซื้อสีมาทาเพียงเฉพาะจุด และใช้จำนวนทาไม่มาก อาจจะมีคำถามว่าสีที่ผสมน้ำไว้แล้วสามารถนำกลับมาใช้อีกได้หรือไม่? คำตอบคือสามารถนำกลับมาใช้ได้ แต่ควรปิดฝาไว้ให้แน่น และควรผสมสีไว้ไม่ควรเกิน 7 วัน เพราะหากเก็บไว้นานสีอาจจะเริ่มมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น 2. สีทาบ้านไม่ผสมน้ำได้หรือไม่?