Brand Awareness ชื่อก็บอกไว้ค่อนข้างชัดเจนว่าจุดประสงค์นี้คือการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ไปยังกลุ่มลูกค้าของคุณ ซึ่งมันก็เป็นขั้นแรกใน marketing funnel เพื่อให้คุณได้สร้างความประทับใจแรกกับกลุ่มลูกค้าของคุณ การขายจะไม่ได้เป็นผลลัพธ์หลักของแคมเปญประเภทนี้ แต่อย่างไรก็ตาม คุณก็ได้เปิดตัวสินค้าให้โลกรับรู้แล้วคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น 2. Reach วัตถุประสงค์นี้เพื่อให้คุณได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณได้มากที่สุด คุณต้องการจำนวนคนที่เห็นโฆษณาของคุณ มากกว่าจำนวนครั้งที่คนเห็น พยายามอย่าจำกัดกลุ่มเป้าหมายให้แคบมากนัก แต่ให้จำกัดว่าแต่ละคนจะได้เห็นโฆษณากี่ครั้ง จุดประสงค์นี้ เราจะได้ปริมาณมากกว่าคุณภาพ 3. Traffic Traffic เป็นวัตถุประสงค์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด คุณต้องการที่จะดึงคนเข้าเว็บไซต์ หรือ Landing page, พาคนเข้าไปที่หน้าสินค้าโดยตรง หรือแม้กระทั่งหน้า Blog ในเว็บไซต์ของคุณ เพื่อที่พวกเขาจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ, สินค้า, บริหาร หรืองานอีเว้นท์ คุณไม่จำเป็นต้องมีเว็บไซต์ก็สามารถใช้วัตถุประสงค์นี้ได้ เพราะมันยังสามารถพาคนเข้าไปที่ app, WhatsApp หรือ Messenger ไม่ว่าคุณจะดึงคนเข้าไปที่ไหน โฆษณาของคุณควรมีความเกี่ยวข้องกัน ไม่อย่างนั้น Facebook อาจปฏิเสธโฆษณาของคุณ.
Lead Generation Lead generation เป็นส่วนสำคัญใน funnel ของคุณ วัตถุประสงค์นี้เพื่อช่วยให้คุณได้ Lead เพิ่มขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้ว จะมีฟอร์มที่ออกแบบให้กรอกได้ง่าย หรือมีออโต้ฟิลให้ด้วย คุณอาจจะมีข้อเสนอให้กับลูกค้า เช่น ส่วนลด, ของแจก, หรือปรึกษาฟรี เพื่อดึงดูดให้คนกรอกฟอร์ม แคมเปญนี้จะช่วยให้คุณได้กรองความสนใจของลูกค้าในระดับหนึ่ง ถ้าคุณจะนำข้อมูลไปใช้ต่อ 8. Messages วัตถุประสงค์นี้เป็นอะไรที่ใหม่กว่าอันอื่น แต่เป็นวัตถุประสงค์ที่ตรงตัว คือเพื่อดึงคนให้เข้ามาสนทนากับคุณ ไม่ว่าจะเป็นใน Messenger หรือ WhatsApp เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คุณจะได้มีโอกาสในการนำเสนอสินค้าหรือบริการของคุณ หรือตอบคำถามที่ลูกค้าสงสัยเพื่อนำไปพิจารณาในการตัดสินใจซื้อ 9. Conversions Conversion เป็นวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจง เช่น คุณต้องการให้คนลงทะเบียนรับข่าวสาร, ซื้อของ, หรือลงทะเบียนเพื่อรับบริการ ซึ่งเฟสบุ้คสามารถช่วยให้คุณบรรลุถึงวัตถุประสงค์นี้ได้ เพียงแต่ว่าคุณต้องมีความชัดเจนว่าคุณต้องการอะไรเป็น Conversion หากคุณใช้อย่างถูกต้องจะทำให้คุณประสบความสำเร็จในแคมเปญอย่างสวยหรู 10. Catalog Sales คุณมีแคตตาล็อคในเฟสบุ้คเพจของคุณแล้วหรือยัง ถ้าคุณมี นี่อาจจะเป็นวัตถุประสงค์ที่เหมาะมากสำหรับคุณ สินค้าที่คุณมีในแคตตาล็อคจะสามารถไปโชว์ให้กับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อเพิ่มการตอบรับหรือแม้กระทั่งเพิ่มยอดขาย Catalog sale นี้เป็นฟังก์ชั่นที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุด โดย Facebook จะดึงดูด user ให้กลับมาซื้อเพิ่มหรือซื้อสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติมที่มีอยู่ในร้าน 11.
คนที่ทำโฆษณาบน Facebook หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า กว่าจะยิงโฆษณาสักตัวได้ก็ต้องผ่านการตรวจสอบเนื้อหาคำโฆษณาโดย Facebook ก่อน จุดนี้ทำเอาหลายคนค่อนข้างเป็นกังวลในการทำโฆษณา และมีหลายเพจที่ถูกปิดไปเนื่องจากใช้คำไม่เหมาะสมด้วย ทำไม Facebook ถึงต้องมีการปิดกั้นการใช้คำบางประเภท? เนื่องจากสังคมบน Facebook เป็นสังคมที่ใหญ่มาก มีคนอยู่ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ดังนั้นการเผยแพร่ภาพหรือข้อความจึงต้องมีความรัดกุมเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ผิดหลักกฎหมาย ไม่ให้กล่าวพาดพิงคนอื่น หรือไม่ให้เยินยอเกินความเป็นจริงนั่นเอง คนที่ทำโฆษณาบน Facebook หลายคนคงกำลังสงสัยว่า แล้วมีคำไหนบ้างเป็นคำต้องห้ามในการทำโฆษณา Facebook?
บัญชีโฆษณาเฟสบุ๊คส่วนตัวถูกปิด ทำอย่างไรดี?
เป็นกันไหม? เวลาที่เริ่มรันโฆษณาใหม่ๆ แล้วได้ผลลัพธ์ไม่ค่อยเสถียร แถมต้นทุนต่อผลลัพธ์ยังสูงอีก แบบนี้ควรแก้ไข Ad ทันที? หรือปิดมันไปเลยดีรึเปล่า? ใจเย็นๆ กันก่อนครับ ที่ผลลัพธ์มันไม่ดูไม่ค่อยถูกใจนัก อาจเป็นเพราะโฆษณาของคุณกำลังอยู่ใน "ช่วงการเรียนรู้" ก็เป็นได้ "ช่วงการเรียนรู้ (Learning Phase)" คืออะไร? เวลาที่เราเริ่มลงมือทำอะไรใหม่ๆ เราก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้ ลองผิด ลองถูกก่อนระยะหนึ่ง ถึงจะทำสิ่งนั้นได้ดีจริงไหมครับ ระบบการนำส่งโฆษณาของ Facebook เองก็ไม่ต่างกัน เวลาที่เราสร้างชุดโฆษณาขึ้นมาใหม่ หรือทำการแก้ไขโฆษณาที่มีนัยสำคัญ Facebook ก็ต้องการเวลาในการเรียนรู้ก่อนว่า ระบบควรจะนำส่งโฆษณาของเราไปให้ใคร? เวลาไหน? ตำแหน่งการแสดงผลใด? ต้องใช้ Ad ตัวไหน? ถึงจะให้ผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ได้ดีที่สุด? ซึ่งก่อนจะรู้ได้ ระบบก็ต้องลองผิด ลองถูก และเรียนรู้จากข้อมูลที่ได้มาเสียก่อน เป็นผลให้ในช่วงนี้ ผลลัพธ์อาจจะยังขึ้นๆ ลงๆ หรืออาจมีต้นทุนต่อการดำเนินการ (CPA) ที่สูงกว่าปกติ โดยชุดโฆษณาที่อยู่ในช่วงการเรียนรู้จะแสดงให้เห็นในคอลัมน์การนำส่ง (Delivery) ว่า "การเรียนรู้ (Learning)" อยู่ครับ แคมเปญ/ชุดโฆษณาจะอยู่ในช่วงการเรียนรู้ นานแค่ไหน?
สร้างบัญชี Facebook Ads สิ่งแรกที่คุณต้องทำก่อนลงโฆษณาเฟสบุ๊ค คือ การสร้างบัญชี (Account) โดยเข้าไปที่ สมัคร Facebook Ads Manager ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการจัดการโฆษณาต่าง ๆ และรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับการลงโฆษณาทั้งหมด ให้คุณได้วิเคราะห์ถึงผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดการโฆษณาจะละเอียดกว่า เนื่องจากฟังก์ชันในการจัดการโฆษณาเฟสบุ๊คภายในระบบคอมพิวเตอร์ จะมีความครอบคลุมมากกว่าการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือในการลงโฆษณา Facebook เพื่อให้การตั้งค่าต่าง ๆ มีความแม่นยำมากกว่า ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า แถมยังคุ้มค่าต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งด้วย 3.
บริการโฆษณาบนเฟสบุ๊ค (Facebook Ads) เลือกบริการโฆษณาบนเฟสบุ๊คกับเรา เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าของคุณได้ตรงจุดที่สุด องค์กรที่ไว้ใจเรา คุณรู้หรือไม่? … ในปัจจุบันนี้การค้นหาแบรนด์ใหม่ๆ จากลูกค้าปัจจุบันเกิดจากการค้นหาในช่องทางโซเชียลมีเดีย บริการโฆษณาบนเฟสบุ๊ค (Facebook Ads) เมื่อดูสถิติการใช้งานโซเชียลมีเดียเฟสบุ๊คของคนไทยอยู่ที่ 51 ล้านบัญชี และมีสถิติทั่วโลกอยู่ที่ 2.
1 คอนเวอร์ชั่น เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายการดำเนินการบางอย่าง เช่น หยิบของใส่ตะกร้า ชำระเงิน ฯลฯ 3. 2 การขายแค็ตตาล็อก เพื่อแสดงสินค้าจากแค็ตตาล็อกของเราโดยอัตโนมัติ 3. 3 การเยี่ยมชมหน้าร้าน สำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้านเป็นของตัวเองจะต้องกำหนดทำเลที่ตั้งให้ชัดเจน และมีปุ่ม Call To Action ให้รับเส้นทางเดินทางไปยังหน้าร้านของคุณได้ ทริค Promote Page เรียกยอดไลก์เพิ่มยอดขาย