การขอชาเล้นจ์ ( CHALLENGE) หากผู้เล่นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเล่นลงสมการแล้วอีกฝ่ายเห็นว่าผิดพลาดผู้เล่นขอเรียกชาเล้นจ์ได้เพื่อดูว่าถูกหรือเปล่าโดยอาจใช้เครื่องคิดเลขช่วย หากถูกต้องแล้วผู้ขอตรวจจะเสียตาเล่นไปหนึ่งตา แต่หากผิด ผู้ที่ลงผิดต้องยกตัวเบี้ยทั้งหมดในตานั้นออกและได้คะแนนเป็นศูนย์ 4. การขอชาเล้นจ์อีกครั้ง ( RE – CHALLENGE) หากผู้เล่นเห็นว่าการขอ CHALLENGE นั้นไม่สำเร็จ หรือเห็นว่าผลการตัดสินยังไม่ถูกต้อง สามารถขอ RE – CHALLENGE จากกรรมการคนอื่นได้อีกครั้งหนึ่ง โดยการขอ RE – CHALLENGE จะต้องทำทันทีหลังจากทำการ CHALLENGE ครั้งแรกแล้ว 5. การขอนับคะแนนใหม่ (RECOUNT) ในกรณีผลการแข่งขันออกมาเสมอกัน หรือมีคะแนนที่ใกล้เคียงกันมาก ผู้เช่นสามารถขอ RECOUNT เพื่อนับแต้มใหม่ทั้งหมดได้ โดยการ RECOUNT นี้สามารถทำได้ทั้งเกมเพื่อตรวจสอบคะแนนของตนและผู้เล่นอีกฝ่าย 6. เวลา ควรกำหนดเวลาในการลงแต่ละครั้งเพื่อความสนุกสนานในปกติไม่เกิน 3 นาทีในการเล่นแต่ละครั้ง แต่ในปัจจุบัน การแข่งขันทุกรุ่นตั้งแต่ประถมศึกษา มัธยมศึกษา จนถึงรุ่นประชาชนทั่วไปจะใช้เวลามาตรฐานฝั่งละ 22 นาที โดยลบแต้มนาทีละ 10 แต้มที่ใช้เวลาเกินที่กำหนดให้ (เศษของวินาทีปัดขึ้น) โดยสามารถใช้นาฬิกาจับเวลาที่สั่งซื้อได้ทั่วไป หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นบนมือถือ โดย Search หาชื่อโปรแกรมว่า Scrabble Clock, Chess Clock เป็นต้น (ปัจจุบัน BM ใช้ Time Control Chess Clock รูปเฟืองสีส้ม - Android) 7.
การผสมตัวเลข การลงเบี้ยแต่ละครั้งสามารถนำเลขโดด ( 0-9) จำนวน 2-3 ตัวมาวางติดกันเพื่อประกอบเป็นเลข 2 หลักได้ เช่น เบี้ย 1 และ 2 มาต่อเป็น 12 ได้ หรือใช้เบี้ย 1, 8 และ 5 มาต่อเป็น 185 ได้ 8. การเปลี่ยนค่าเป็นเลขลบ สามารถเอาเครื่องหมายลบ มาวางไว้หน้าเบี้ย 1-20 และจำนวนต่างๆ เพื่อให้เป็นค่าลบได้ เช่น - 6 = 4-10 หรือ - 285 = -285 แต่ห้ามวางเครื่องหมายบวกลบคูณหารไว้ติดกัน เช่น - 7 = 6+ -3 หรือ 7 x -6 = -42 เช่นนี้ไม่ได้ 9. ห้ามใช้ 0 ไปต่อหน้าตัวเลขทุกจำนวน เช่น 07, 012 ถือว่าใช้ไม่ได้ทั้งหมด 10. ห้ามใช้เครื่องหมาย (+) หรือเครื่องหมาย (-) เติมหน้าตัวเลข 0 11. ห้ามใช้เครื่องหมาย (+) เติมหน้าตัวเลข เช่น + 7 = 5+2 หลักการคำนวณเบื้องต้น 1. หาก " เครื่องหมาย × และ ÷ " หรือ เครื่องหมาย + และ – อยู่ด้วยกัน ต้องทำตามลำดับก่อนหลัง เช่น 8×3÷6 = 1+1+2 = 4 หรือ 7-4+5 = 3+5 = 8 2. ต้องกระทำเครื่องหมายคูณและหารก่อนเครื่องหมายบวกลบ เช่น 4+ 4×3 ต้องคิดเป็น 4+( 4×3) = 4+12 = 16 หรือเช่น 5+4×9÷2 = 23 ต้องคิดเป็น 5+( 4×9÷2) = 5+18 = 23 3. ห้ามนำ 0 เป็นตัวหาร แต่หากใช้เป็นตัวตั้งแล้วจะหารด้วยเลขอะไรผลลัพธ์ได้ 0 เสมอ เช่น 5÷0 = หาค่าไม่ได้ แต่ 0÷5 = 0 4.