๕ เมตร หน้าฉากเป็นเวทีแสดง หลังฉากเป็นหลังเวที ถัดจากเวทีแสดงไปทางขวามือของผู้แสดง เป็นเวทีดนตรี สูงเสมอกัน ขนาดกว้าง ๓ เมตร ลึก ๔ เมตร บนเวทีแสดงมีตั่งอเนกประสงค์ตั้งกลางประชิดกับฉาก เวทีลิเกลอยฟ้า เป็นเวทีที่พัฒนาขึ้นประมาณ พ. ศ. ๒๕๒๕ โดยขยายความกว้างของเวทีแสดงออกไปเป็น ๑๐ - ๑๒ เมตร ลึก ๔ - ๕ เมตร สูง ๑ เมตร เวทีดนตรีอยู่ตรงกลางระหว่างเวทีแสดงกับหลังเวที ยกสูงจากพื้นเวทีแสดง ๑. ๕๐ - ๒. ๐๐ เมตร ลึกประมาณ ๒. ๕ เมตร มีฉากไม้อัดเขียนลายอยู่ด้านหลังวงดนตรี หลังเวทีกว้าง ๑๒ เมตร ลึก ๔ - ๕ เมตร ไม่มีหลังคา หน้าเวทีแสดงมีเสาแขวนป้ายผ้าบอกชื่อคณะลิเก ยาวตลอดหน้ากว้างของเวที สองข้างเวทีมีหลืบไม้อัด สำหรับบังผู้แสดงเข้าออก ตรงกลางเวทีแสดงตั้งตั่งอเนกประสงค์ ฉากชุดเดี่ยว ฉากสามมิติ ฉาก ฉากลิเกเป็นฉากผ้าใบเขียนเป็นภาพต่างๆ ด้วยสีที่ฉูดฉาด ฉากลิเกแบ่งเป็น ๓ ประเภท คือ ฉากชุดเดี่ยว ฉากชุดใหญ่ และฉากสามมิติ ฉากชุดเดี่ยว คือ มีฉากผ้าใบ ๑ ชั้น เป็นฉากหลัง เขียนภาพท้องพระโรงขนาด ๓.
เครื่องประดับที่ฝังมรกตและพลอยหลากสี ระยิบระยับวิบวับ ต้องลองนำมาทาบกับชุด ลองใส่แล้วดูให้ดีว่าเข้ากันหรือไม่ เยอะไปหรือเปล่า มิเช่นนั่นคนจะคิดว่าเป็นนางรำมากกว่าเป็นเจ้าสาว เทคนิคนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะเจ้าสาวเท่านั้น แต่เพื่อนเจ้าสาว รวมถึงแม่เจ้าสาวก็นำไปใช้ได้เช่นกัน 3. ชุดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 ไม่ต้องใส่อะไรเยอะ นึกภาพเสื้อผ้าลูกไม้แขนพอง หรือที่เรียกกันว่าแขนหมูแฮม นุ่งคู่กับโจงกระเบนออกใช่ไหมคะ ชุดสไตล์นี้แมทช์เครื่องประดับง่ายมาก เลือกแค่สร้อยมุกสายยาวมาคล้องคอ เสริมด้วยต่างหูมุกไม่ต้องใหญ่มาก แค่นี้ก็สวยแล้วจ้ะ 4. ต้องใส่เยอะแค่ไหน เครื่องประดับชิ้นหลักที่ควรจะอยู่บนเรือนร่างมีไม่กี่ชิ้น คือ ต่างหู สร้อยคอ และเข็มขัด แค่นี้ก็โอเคแล้ว ส่วนกำไล สังวาล ข้อแขน และแหวนอยากจะให้ลองใส่ดูก่อน เพราะไม่อยากให้กลายเป็นตู้ทองเคลื่อนที่ ถ้าเยอะไปก็เอาออกได้ ไม่มีใครว่านะ 4 ข้อง่ายๆ จำให้ขึ้นใจเอาไว้ใช้เลือกเครื่องประดับให้เข้ากับชุดไทย ไม่ใช่ว่ามีอะไรก็ใส่หมด ไม่งั้นคงต้องร้องรำทำเพลงเป็นลิเกแทนที่จะเป็นเจ้าสาวแล้วล่ะ! ภาพบนสุดจาก: