ศ. 2127 และ เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ใน พ.
พระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานแก่ปวงราษฎรไทยทั้งหลาย ในระยะต้นแห่งการ เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยสิริราชสมบัตินั้น เป็นพระราชดำริด้านการแพทย์และงานสังคมสงเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากในระยะต้น รัชกาลนั้นกิจการด้านการแพทย์ของไทยยังไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร และการบริการสาธารณสุขในชนบทยังมิได้แพร่หลาย เฉกเช่นปัจจุบัน พระราชกรณียกิจช่วงแรกเริ่มตั้งแต่ปี พ. ศ. ๒๔๙๓- ๒๕๐๕ จะเป็นการช่วยเหลือบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้า ไม่มีลักษณะเป็นโครงการเต็มรูปแบบอย่างปัจจุบัน เช่น เมื่อ พ. ๒๔๙๓ วัณโรค มีอุบัติการณ์สูงและยังไม่หมดไปจากประเทศไทย ปีหนึ่งๆ มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้เป็นจำนวนไม่น้อย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยมีพระราชปรารภกับหลวงพยุงเวชศาสตร์ อธิบดีกรมสาธารณสุข เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ. ๒๔๙๓ ความว่า คุณหลวง วัณโรค สมัยนี้มียารักษากันได้เด็ดขาดหรือยัง ยาอะไรขาด ถ้าต้องการฉันจะหาให้อีก ฉันอยากเห็นกิจการแพทย์ของเมืองไทยเจริญมากๆ จากนั้นในปี พ. ๒๔๙๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชทรัพย์จำนวน ๕๐๐, ๐๐๐ บาท เพื่อใช้สร้างอาคาร "มหิดลวงศานุสรณ์" ในบริเวณสถานเสาวภา สำหรับใช้ในกิจการทางด้านวิทยาศาสตร์และ ผลิตวัคซีน บี ซี จี ซึ่งผู้คนยุคนั้นกำลังประสบปัญหาจากวัณโรคอย่างร้ายแรงทรงริเริ่มสร้างภาพยนตร์ขึ้น ที่รู้จักกันในนามว่า "ภาพยนตร์ส่วนพระองค์" จัดฉายเพื่อหารายได้จากผู้บริจาค โดยเสด็จพระราชกุศลนำมาช่วยเหลือพสกนิกรด้านต่าง ๆเช่น ๑.
2438 ทรงโปรดให้จัดตั้งมณฑลกรุงเก่าขึ้น ประกอบด้วยหัวเมืองต่าง ๆ คือ กรุงเก่าหรืออยุธยา อ่างทอง สระบุรี ลพบุรี พรหมบุรี อินทร์บุรี และสิงห์บุรี ต่อมาโปรดให้รวมเมืองอินทร์ และเมืองพรหมเข้ากับเมืองสิงห์บุรี ตั้งที่ว่าการมณฑลที่อยุธยา และต่อมาในปี พ. 2469 เปลี่ยนชื่อจากมณฑลกรุงเก่าเป็นมณฑลอยุธยา ซึ่งจากการจัดตั้งมณฑลอยุธยามีผลให้อยุธยามีความสำคัญทางการบริหาร การปกครองมากขึ้นการสร้างสิ่งสาธารณูปโภคหลายอย่างมีผลต่อการพัฒนาเมืองอยุธยาในเวลาต่อมา จนเมื่อยกเลิกการปกครองระบบเทศาภิบาล ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ. 2475 อยุธยาจึงเปลี่ยนฐานะเป็นจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีได้มีนโยบายบูรณะโบราณสถานภายในเมืองอยุธยาเพื่อเป็นการฉลองยี่สิบห้าพุทธศตวรรษประจวบกับในปี พ.
1880 ซึ่งเป็นโรงแรมเดียวที่มี เครื่องกำเนิดไฟฟ้า โบสถ์ โรงละคร อยู่ในนั้น โรงแรมไม่มีการพัฒนาไปไกลกว่า จนกระทั่ง นาย เซซาร์ ริทซ์ ( Ce'Sar Ritz) เป็นชาว สวิสเซอร์แลนด์ ผู้ซึ่งเป็นบิดาของการโรงแรมได้นำวิทยาการใหม่ๆมาใช้นั่นเอง [ แก้] วิวัฒนาการที่สำคัญ ค. 1834 แอสเตอร์ (Astor) เป็นผู้ริเริ่มนำระบบท่อประปามาใช้ในอาคาร ทำให้ห้องพักสามารถสร้างห้องน้ำไว้ได้ในตัวห้องจากแต่เดิมต้องไปใช้ห้องน้ำรวม ค. 1853 มีการใช้ ลิฟต์ พลังงานไอน้ำในโรงแรมเป็นครั้งแรก ค. 1875 โรงแรมพาเลซ ซานฟรานซิสโก สร้างขึ้นด้วยเงิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ มีห้องพัก 800 ห้อง ถือเป็นโรงแรมที่มีขนาดใหญ่มากในขณะนั้น ค.
717 และยังคงดำรงกิจการมาถึงปัจจุบัน
ราชวงศ์อู่ทอง 2. ราชวงศ์สุพรรณภูมิ 3. ราชวงศ์สุโขทัย 4. ราชวงศ์ปราสาททอง 5. ราชวงศ์บ้านพลูหลวง พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ลำดับ พระนาม ปีที่ครองราชย์ (พ. )
สร้างตึกวชิราลงกรณ์สภากาชาดไทย ๒.
858 พันล้าน ในปี 2010 ประชากรโลกกว่า 22 เปอร์เซ็นมีคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ด้วยจำนวนการค้นหาในเว็บ Google กว่า 1 พันล้านครั้งทุกวัน 300 ล้านผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเข้าไปอ่านบล็อคต่าง ๆ ผู้ใช้กว่า 2 พันลานคนเปิดดูวีดีโอในยูทูปทุกวัน ปี 2014 เพิ่มขึ้นเป็น 3 พันลานคน หรือประมาณ 43. 6 เปอร์เซ็นของประชากรของ 2 ใน 3 มาจากประเทศที่พัฒนาและมีความร่ำรวย คนในยุโรปใช้มากถึง 78 เปอร์เซ็น ส่วนสหรัฐอเมริกาใช้อยู่ที่ 57. 4 เปอร์เซ็นของประชากรทั้งหมด ซึ่งคาดว่าในอนาคตแทบจะไม่มีใครที่ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็นอย่างแน่นอน
วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๓๓๐ พล. อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/รองประธานสภา วปอ. เป็... วันศุกร์ ที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๙๐๐-๑๐๓๐ พล. ท. ไพศาล งามวงษ์วาน ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจ... วันพุธ ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๐๘๐๙ พลเอก นเรนทร์ สิริภูบาล รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้เกียรติเป...