เอกชน จนเกือบไม่เหลืออะไรเลยให้ลูกหลาน มีอย่างเดียวที่ทำได้ต้องย้ายไป รพ. ของรัฐ" ส่วนกรณีผู้มีส่วนได้เสียออกมาคัดค้านไม่เห็นด้วยในการนำยา-เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ ขึ้นเป็นบัญชีสินค้าควบคุม เนื่องจากต้องรักษาผลประโยชน์ของตนเอง ซึ่งแสดงให้เห็นความไม่รับผิดชอบต่อสังคม ทั้งๆ ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมสนับสนุนให้เป็นสินค้าควบคุม เพราะทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจ อยากให้คนที่เกี่ยวข้องดูในรายละเอียด อีกทั้งเงินค่ารักษาพยาบาลก็เข้ากระเป๋าแค่คนคนเดียว หรือคนไม่กี่คนเท่านั้นที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชน ในส่วนอีกฝั่งหนึ่ง นพ. พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ได้ออกแถลงการณ์คณะกรรมการสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ระบุว่า หากมีการกำกับค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชน ทำให้ไม่มีการลงทุนในด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมต่างๆ ที่ทันสมัย และจะทำให้ศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทยด้อยลง ทั้งที่ปัจจุบันการรักษาพยาบาลของประเทศไทยไม่ด้อยกว่าประเทศใดในโลก และนับเป็นสิ่งสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจตามนโยบายไทยแลนด์ 4. 0 สำหรับกระแสต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องการกำกับค่ารักษาพยาบาลในสถานพยาบาลเอกชนในปัจจุบัน ทำให้เกิดความเข้าใจสับสน และตีความหมายไปในหลากหลายแง่มุมนั้น จึงออกแถลงการณ์เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของประชาชน เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลในสถานพยาบาลเอกชนดังนี้ 1.
8% ของโรงพยาบาลและสถานพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ รายงานว่าเข้าร่วมในโครงการประกันสุขภาพ และอีก 35. 2% ไม่ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว สำหรับประเภทประกันสุขภาพ พบว่า มีโรงพยาบาลและสถานพยาบาลเอกชน 62. 7% ให้บริการในประเภทกองทุนเงินทดแทน, ส่วน 60. 4% ให้บริการในประเภทประกันสุขภาพเอกชน, 55. 5% ให้บริการในประเภทการประกันสังคม, 32. 9% ให้บริการในประเภทกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และ 29. 3% ให้บริการสำหรับโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 3. โครงการ Medical Hub ของประเทศไทย ผู้ป่วยชาวต่างประเทศที่เข้ามารับบริการในโรงพยาบาลและสถานพยาบาลเอกชน มีจำนวนทั้งสิ้น 4. 23 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นผู้มารับบริการที่เป็นผู้ป่วยนอก ชาวต่างประเทศ 95. 6% และผู้มารับบริการเป็นผู้ป่วยใน ชาวต่างประเทศ 4. 4% ด้านผลการดำเนินกิจการปี 2559 พบว่า การดำเนินกิจการในโรงพยาบาลและสถานพยาบาลเอกชน ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในระบบเศรษฐกิจของประเทศถึง 99, 427 ล้านบาท ซึ่งมาจากมูลค่ารายรับจากการดำเนินกิจการ 234, 327. 2 ล้านบาท หักด้วยค่าใช้จ่ายขั้นกลางในการดำเนินการ 134, 900. 2 ล้านบาท ทั้งนี้ การที่มีนโยบายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ทำให้ชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามารับการรักษาในประเทศไทยมาก โดยที่โรงพยาบาลและสถานพยาบาลเอกชนรายงานถึงเหตุผลที่ชาวต่างประเทศเข้ามารักษา กล่าวคือ 46.
เนื่องจากที่ผ่านมามีการร้องเรียนค่ายา ค่ารักษาโรงพยาบาลเอกชน มีราคาแพง ซึ่งมีงานวิจัยระบุการให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติของโรงพยาบาลเอกชนจำนวนไม่น้อย เรียกเก็บค่าบริการแพงจริง เมื่อเปรียบเทียบรายการยากับ รพ. ศูนย์ สังกัดสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีราคาต่างกันตั้งแต่ 60-400 เท่า ด้าน น. ส. สุภัทรา นาคะผิว อนุกรรมการด้านบริการสุขภาพ คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช. ) กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ว่า ต้องติดตามดูกระทรวงพาณิชย์จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม. หรือไม่ หรืออย่างช้าวันที่ 22 ม. ค. นี้ เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนรวมที่รัฐต้องเข้าไปดูแล และมีประชาชนจำนวนมากขานรับอย่างล้นหลาม ซึ่งมันกระทบคนทุกคนในสังคม "เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องคนรวยหรือคนจน รัฐบาลต้องเข้ามาดูแลหลักประกันสุขภาพ ไม่ให้คนล้มละลายจากการเจ็บป่วย อย่างล่าสุดประเทศสิงคโปร์ ได้เข้าไปกำกับดูแลค่ารักษาพยาบาลไม่ให้คนจ่ายเพิ่ม จนเกิดผลกระทบต่อการเป็นอยู่ และขึ้นชื่อว่าเป็นคนรวย หากเจ็บป่วยเป็นเวลานานก็จนได้ ซึ่งมีคนรวยรายหนึ่งในไทย หากบอกชื่อต้องมีคนรู้จัก ได้เจ็บป่วยเป็นเวลานานนอน รพ.
กรมการค้าภายใน หารือร่วมกับสมาคมโรงพพยาบาลเอกชน และตัวแทนผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชน โดยกำหนดให้วันที่ 13 เม. ย. 62 โรงพยาบาลเอกชนกว่า 100 แห่ง เผยแพร่ราคาผ่านเว็บไซต์ นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า กรมการค้าภายใน ได้หารือร่วมกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน และตัวแทนผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชน ถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาค่ายาและค่ารักษาพยาบาลสูงเกินจริงตามที่มีประชาชนร้องเรียนมา เบื้องต้นทางผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนเห็นชอบในหลักการที่จะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการเผยแพร่ราคายาที่จำเป็นและค่ารักษาพยาบาลผ่านทางเว็บไซต์กลางและเว็บไซต์ของโรงพยาบาลเอกชนแต่ละแห่ง เพื่อให้ประชาชนได้เปรียบเทียบราคาและตัดสินใจเข้ารับการรักษา โดยในวันที่ 13 เม. 62 โรงพยาบาลเอกชนกว่า 100 แห่งจะต้องเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์กลางและเว็บไซต์ของโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศพร้อมกัน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไทยให้ประชาชน โดยข้อมูลที่นำมาเผยแพร่จะต้องง่ายต่อความเข้าใจของชาวบ้าน ไม่ใช่เป็นข้อความทางเทคนิคเพราะชาวบ้านทั่วไปจะเข้าใจยาก ส่วนยาที่จะประกาศราคาเบื้องต้นจะมีประมาณกว่า 1, 000 รายการ จากทั้งหมดกว่า 5, 000 รายการ และค่ารักษามาเผยแพร่บนเว็บไซต์ ซึ่งจะทำให้ประชาชนรับทราบราคายาและค่ารักษาและเกิดการเปรียบเทียบ ทำให้โรงพยาบาลเอกชนไม่กล้าคิดราคายาและค่ารักษาที่แพงเกินความเหมาะสม