4 มี. ค. 2565 15:28 น. ผบช. ภูธรภาค 5 ย้ำให้ความเป็นธรรมคดี ส. ต. ท. ยิงลูกชายผู้หมวด สภ. ภูพิงคราชนิเวศน์ เสียชีวิต ปมทะเลาะวิวาท โดยให้ดำเนินคดีตามพยานหลักฐานตรงไปตรงมา และกำชับ ผกก. ดูแลให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เมื่อวันที่ 4 มี. 2565 พล. ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยคดีที่ ส. กำชัย คิดสม อายุ 31 ปี ผบ. หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ. ภูพิงคราชนิเวศน์ ใช้อาวุธปืนยิงนายสุรยุทธ์ สุทำทาน อายุ 21 ปี ลูกชายของตำรวจในโรงพักเดียวกันจนเสียชีวิต ว่า การสอบสวนจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ปรากฏ ยืนยันจะมีการดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ส่วนสาเหตุมาจากทั้งสองฝ่ายทะเลาะมาหลายครั้ง ที่ผ่านมาผู้กำกับการ สภ. ภูพิงคราชนิเวศน์ เคยเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาว่ากล่าวตักเตือนแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังพบมีการกระทบกระทั่งกันอีกจนมาเกิดเหตุครั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว หลังจากนี้เน้นย้ำให้ พ. อ. มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผกก. สภ. ภูพิงคราชนิเวศน์ ให้ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข. อ่านเพิ่มเติม...
ค. 2561 ผู้ก่อตั้งบริษัท ลุดวิค มิเนลลี่ (Ludwig Minelli) ตั้งปณิธานไว้ว่า "ปรารถนาจะช่วยผู้ที่สุขภาพดีและเจ็บป่วยทางจิตใจให้ฆ่าตัวตายได้" โดยผู้ป่วยที่เดินทางมาทำการการุณยฆาตที่นี่มากที่สุด 3 อันดับแรกคือ เยอรมัน อังกฤษ และฝรั่งเศส ด้วยอายุเฉลี่ย 69 ปี ความสามารถของผมถดถอยลงกว่า 1-2 ปีที่ผ่านมา สายตาของผมเริ่มฝ้าฟางลงกว่า 5-6 ปีก่อนมาก ผมไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว รู้สึกดีใจที่ผมจะมีโอกาสยุติมันลงเสียที ออสเตรเลีย ในอดีตเคยมีการประกาศกฎหมาย Rights of the Terminally Ill Act 1995 และมีผลบังคับใช้ในเมื่อวันที่ 1 ก. 2539 ในรัฐนอร์เทิร์น เทร์ริทอรี แต่ต่อมาก็ถูกยกเลิก ล่าสุดเมื่อปลายปี 2560 ประเทศออสเตรเลียเพิ่งมีประกาศใช้กฎหมายภายในรัฐวิกตอเรีย Voluntary Assisted Dying Act 2017 จะมีผลบังคับใช้ในเดือน มิ.
00 น. เวลาออกเดินทาง(สำหรับผู้ที่นัดขึ้นรถตู้กับเสมฯ) — จุดนัดขึ้นรถตู้ที่ ปั้มปตท. ติดกับช่อง 5 สนามเป้า 8. 30-9. 00 น. ทานอาหารเช้า (เป็นข้าวต้มมังสวิรัต) และ ลงทะเบียนที่ห้องประชุม 9. 00-12. 15 น. กิจกรรมแนะนำตัว กิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ ความคาดหวัง ข้อตกลงร่วม และบอกเล่าความรู้สึกนึกคิดต่อเรื่องความตายในสังคมปัจจุบัน 12. 15-13. 15 น. ทานอาหารกลางวัน 13. 15-14. 00 น. ผ่อนพักตระหนักรู้ (นอนภาวนา) 14. 00-17. 00 น. แบ่งปันความรู้สึกนึกคิดของคนในสังคมปัจจุบันต่อเรื่องความตาย และภาวะใกล้ตาย และเหตุปัจจัยที่กำหนดความรู้สึกนึกคิดนั้น 18. 00-19. 00 น. ทานอาหารเย็น 19. 30 น. สมาธิภาวนา 19. 30-21. 30 น. แลกเปลี่ยน "สภาพการตายที่พึงปรารถนาในมิติต่างๆ" และทำความเข้าใจเรื่องภาวะใกล้ตายและคติใกล้ตาย ทั้งทางกายภาพและจิตวิญญาณ วันที่สอง 7. 00-8. 00 น. ทำบุญอุทิศส่วนกุศลเพื่อน้อมนำสู่การพิจารณาหลักไตรลักษณ์ หรือการปลงสังขารและสมาธิภาวนา 8. 45 น. ทานอาหารเช้า 8. 45-9. 05 น. 9. 05-12. 15 น. หลักการการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่นำไปปฏิบัติได้จริง และฝึกทักษะการดูแลผู้ป่วยระยะ-สุดท้ายผ่านสถานการณ์จำลอง กิจกรรมสื่อความในใจถึงผู้ล่วงลับ 19.
วิธีที่ 2 จาก 4: บรรเทาอาการปวดหรือไม่สบายตัว พูดคุยกับแพทย์ของคุณเกี่ยวกับการบรรเทาอาการปวด หากคุณกำลังทำตามการรักษาแบบประคับประคองอยู่แล้วเยี่ยมมาก!
จึงมี "โครงการเผชิญความตายอย่างสงบ" สนับสนุนการดำเนินงานโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( สสส. )
สุพรรณ ศรีธรรมา ประธานกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นฯ เล่าว่า ที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานพยายามทำเรื่องการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง แต่พอลงไปช่วยก็จะติดขัดระเบียบของหน่วยราชการว่าอันนี้ทำได้ ทำไม่ได้ เมื่อเกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกันก็ทำให้หน่วยงานตรวจสอบ เช่น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง. ) ติงว่าเรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของคุณ คุณทำไม่ได้ ใช้เงินผิดประเภท ทำให้หลายท้องถิ่นที่ได้ดำเนินการไปแล้วต้องหยุด ซึ่งกระทบต่อการให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชน "ประการต่อมา หน่วยราชการด้วยกันเองมีส่วนสนับสนุนช่วยเหลือดูแลประชาชนในเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว แต่เวลาเสนองบประมาณเข้าไป สำนักงบประมาณอ้างว่ามันซ้ำซ้อนกัน เราจึงต้องทำคำจำกัดความเรื่องการตายดี การดูแลแบบประคับประคอง ถ้าเข้าใจตรงกันก็จะแบ่งกันว่าใครรับผิดชอบ ในส่วนท้องถิ่นก็สามารถตั้งงบประมาณได้ รายละเอียดงบประมาณจะไม่ซ้ำซ้อน ถ้าทำสำเร็จ ต่อไปหน่วยงานสนับสนุนทั้งหลาย สำนักงบประมาณ รวมถึงหน่วยตรวจสอบอย่าง สตง. จะได้เข้าใจตรงกัน และประโยชน์อีกประการหนึ่ง คือ ประโยชน์ทางด้านวิชาการ ที่จะสามารถนำไปอ้างอิงต่อไป" พูดคุยเรื่อง 'ความหมาย' หากได้อยู่ในบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็น คงไม่แปลกที่จะเข้าใจได้ว่าเหตุใดจึงจำเป็นต้องมาหานิยามศัพท์เทคนิคทางการแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ชัด ขณะเดียวกันก็อาจเกิดความสงสัยว่า ทำไมคำบางคำถึงต้องมานั่งหาความหมายกันอีก มันไม่ใช่สิ่งที่รู้กันอยู่แล้วโดยสามัญสำนึกหรือ?
ทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่ อยากให้จัดการอย่างไร 2. อยากฝากให้ใครดูแล ช่วยเหลือญาติมิตร ลูกหลาน พ่อแม่ อย่างไรบ้าง (รวมถึงสัตว์เลี้ยงด้วย) 3. การงานหรือธุรกิจที่คั่งค้าง อยากให้จัดการต่ออย่างไร 4. ร่างกาย อวัยวะ งานศพของเราอยากให้จัดการอย่างไร 5. หากเราอยู่ในระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถพูดหรือสื่อสารได้ เรามีความต้องการเรื่องเหล่านี้อย่างไร เช่น การรักษาแบบใดที่ไม่ต้องการให้ทำกับเรา การรักษาดูแลแบบใดที่อยากให้ทำ อยากพบใคร อยากให้ใครมาดูแลเรา อยากอยู่ที่ไหน อยากให้ใส่เครื่องช่วยชีวิตแค่ไหน อยากใส่เสื้อผ้าแบบไหน ฯลฯ 6.