9 เสมอ ถ้ากราฟหลักของทีมเหย้ามีการไหลผ่าน 1. 9 (ไม่ว่าจะไหลขึ้นหรือไหลลงก็ตาม) แสดงว่าต้องมีการตัดกับกราฟทีมเยือนแน่นอน ดังตัวอย่างต่อไปนี้ (เราเคยแสดงกราฟทีมเยือนด้วย แต่พอมีหลายเส้นเกินไปทำให้สับสน เลยเอาออกดีกว่า 55) กราฟราคาไหล Fulham -vs- Everton 24 พ. 2009 22:00 กราฟราคาไหล Manchester City -vs- Blackburn Rovers 2 พ. 2009 21:00 กราฟราคาไหล Inter Milan -vs- Lazio 3 พ. 2009 01:30 กราฟราคาไหล Real Madrid -vs- Barcelona 3 พ. 2009 01:00 แกน Y ของกราฟเอเชี่ยนแฮนดิแคป (Asian Handicap) และกราฟสูงต่ำ (Over/Under) ถูกตั้งไว้ให้มีค่าสูงสุดที่ 2. 7 และต่ำสุดที่ 1. 4 เหมือนกันทุกการแข่งขัน ส่วนกราฟ 1X2 นั้นค่าสูงสุดและต่ำสุดจะเปลี่ยนไปในแต่ละกราฟครับ
นี่คือหลักการคิดเบื้องต้นของ Price action 4. ตามข่าว การเทรดตามข่าวนั้นแม้นว่าจะใช้ง่ายมากที่สุด ข่าวที่มีผลกระทบเช่น ข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ก็มีผลในการที่จะทำให้ค่าเงินของแต่ละสกุลที่เราเลือกมันผันผวนได้หมด แต่หากว่าอาศัยเทคนิคในการที่จะตามข่าวมาใช้ในการเทรดแต่เพียงอย่างเดียวนับว่ามันมีความเสี่ยงในการเทรดในตลาดระยะยาวพอสมควร แต่สำหรับระยะสั้นมันไม่ค่อยที่จะมีปัญหาเท่าไหร่ ดังนั้นเรื่องของการสนใจแต่ข่าวแล้วนำมาใช้ในการเทรดเลยมันไมได้ จะต้องใช้เทคนิคอื่นควบคู่ไปด้วย ใช้ Money Management ช่วยได้ 5. ประสบการณ์ แน่นอนเลยว่าประสบการณ์นี้มันเป็นเรื่องการฝึกฝนและระยะเวลา ในรอบปีหนึ่งในการที่เราจะสั่งสมในเรื่องของการเทรดประสบการณ์นั้นมันวัดยากมากจะเก่งไม่เก่งแล้วแต่เทรดเดอร์แต่ละคนจะสั่งสมเอาเองมากกว่า บางคนใช้เวลาเป็น 10 ปีล้างพอร์ตมาแบบนับไม่ถ้วนก็มี กว่าที่จะสร้างกำไรในการที่จะเทรดตามประสบการณ์ได้
ตามข่าว เรื่องของข่าวในการที่จะนำมาเทรดในตลาด Forex นั้นมันมีความจำเป็นมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าข่าวทุกข่าวนั้น มันมีผลกระทบทั้งหมด จะต้องกลั่นกรองข่าวก่อนที่จะนำมาใช้ในการที่จะพิจารณาในการที่จะเทรดด้วย เช่น ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ข่าวภาคการจ้างงาน แรงงาน นโยบาลทางเศรษฐกิจ ของประเทศนั้น ข่าวการก่อจลาจล หรือว่าข่าวภัยธรรมชาติ ล้วนแล้วแต่มีคนผลด้วยกันทั้งนั้น จึงมีการ จัดเเบ่งการจัดความสำคัญ ของข่าวได้ทั้งหมด 4 ประเภท ที่มีผลกระทบต่อตลาด Forex คือ ข่าวกระทบน้อยมาก – Impact สีขาว, ข่าวกระทบน้อย – Impact สีเหลือง, ข่าวกระทบปานกลาง – Impact สีส้ม, ข่าวกระทบปานกลาง – Impact สีแดง 6. ประสบการณ์ แน่นอนว่าการจะเทรด Forex ตามประสบการณ์ ของนักเทรดข้อนี้ มันคือเรื่องที่ไม่สามารถ ที่จะลอกเลียนแบบได้ เกิดจาการสะสม และหาความรู้ ด้วยตนเอง ให้สามารถที่จะอ่านวิเคราะห์ ตามประสบการณ์ให้สามารถที่จะประสบความสำเร็จได้ ซึ่งประสบการณ์ของนักเทรดที่ดีคือ ต้องเข้าใจตลาดฟอเร็กซ์เป็นอย่างดี ซึ่งรวมทั้งการมีกลยุทธ์การเทรด และอีกเรื่องคือการมีวินัยในตนเอง จึงจะเป็นนักเทรดมืออาชีพได้ กลับสู่หน้าหลัก ไปอ่านบทความ
เทคนิคการอ่านกราฟเบื้องต้น ภาพกราฟ FOREX คู่เงิน EUR/USD หรือ EU การเล่นหุ้นในตลาด FOREX สามารถทำได้ ทั้งขาขึ้นและขาลง เช่น เมื่อคุณทำการ Sell ที่ราคา 1. 2958 แล้วทำกำไร โดยปิดการซื้อ/ขาย ที่ราคา 1. 2410(TP) คุณก็จะได้กำไรจำนวน 548 Pips ถือว่าเยอะมากเลยนะครับ สมมุติเล่น Pips ละ $10 คุณจะได้กำไรเป็นเงินจำนวนเงิน $5, 480 ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 164, 400 บาท สำหรับนักลงทุนรุ่นพี่ที่เป็นมืออาชีพบางคนอาจเทรดจุดละ $100 ลองคิดมูลค่าดูซิครับ ได้เป็นหลักล้านเลยครับ การวิเคราะห์กราฟเบื้องต้น มองแนวโน้มให้ออก หลักการมองแนวโน้ม เริ่มจากการมองเทรนให้ออกก่อนเสมอ เทรนในตลาดจะมีแค่ 3 แบบ 1. Up Trend แบบขาขึ้น จะวิ่งขึ้นอย่างเดียว (เหมาะกับการเข้าเทรด) 2. Down Trend แบบขาลงจะวิ่งลงอย่างเดียว (เหมาะกับการเข้าเทรด) 3. Sideway Trend แบบขนานเคลื่อนตัวไปทางด้านข้าง ขึ้นๆ ลงๆ (ไม่เหมาะกับการเข้าเทรด) Sideway แยกออกได้เป็น 2 แบบคือ... 1. Sideway ในช่วง (พักตัว) เทรนขาขึ้น 2.
เทรนไลน์ (Trend Line) นับได้ว่ามันคือ เครื่องมือพื้นฐานที่สำคัญของการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งตอบง่ายๆเลย คือ การลากเส้ยกราฟนั้นเอง จากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งเพื่อดูว่ากราฟนั้นออกมาเป็นแบบไหน การที่จะวิเคราะห์ออกมาแบบไหนอยู่ที่เราลากเส้นเทรนด์ไลน์ มากกว่าซึ่งการลากเส้นชนิดนี้ก็ไม่ได้มีกฎตายตัวด้วยว่าจะต้องลากจากไหนไปไหนด้วย ปัญหาอีกอย่างคือ ลากเส้นเทรนด์ไลน์ ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะนำเทรนไลน์ไปใช้ประโยชน์ได้จริง นั้นเอง 3. Price action พฤติกรรมราคา นับได้ว่า Price action มันคือเทคนิคอีกตัวที่สำคัญในการที่เราจะทำกำไรได้หรือว่าขาดทุนได้จาก ตลาด Forex ได้เลย เป็นการเทรดหา Trade Setup ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมของ กราฟแท่งเทียนเปล่า ๆ ซึ่งเทคนิคนี้จะอยู่คู่กับกราฟแท่งเทียนนั้นเอง ซึ่งกราฟแท่งเทียน 1 แท่งจะประกอบไปด้วย ราคาเปิด (Open), ราคาปิด (Closed), ราคาสูงสุด (High) และ ราคาต่ำสุด (Low) นั้นเอง Price action เป็นศาสตร์ที่พูดถึงการวิเคราะห์กราฟราคาด้วยพฤติกรรมราคา ว่าการที่ราคาเป็นแบบนี้เกิดจากอะไร ราคาเป็นแบบนี้เกิดจากความไม่มั่นใจในแนวโน้ม เมื่อไม่มั่นใจในแนวโน้มจะเกิดอะไรขึ้น? แนวโน้มเดิมจะยังเชื่อถือได้หรือไม่?
ราคาสูงสุด (High price) คือจุดราคาที่เคยขึ้นไปสูงที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ 2. ราคาปิด (Close price) คือจุดราคาปิด 3. ตัวเทียน (Real body) คือช่วงระยะรหว่างราคาเปิดกับราคาปิด 4. ราคาเปิด (Open price) คือจุดราคาเปิด 5.
วิธีการ อ่านกราฟ Forex เข้าใจง่ายๆว่าต้องใช้อะไรบ้าง?