"เป็นพับ" [ แก้] ทั้งนี้ มีคำใกล้เคียงกับคำ "ตกเป็นพับ" แต่มีความหมายที่จะว่าต่างกันก็ได้ คล้ายกันก็ได้ คือ คำว่า "เป็นพับ" ซึ่งพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.
5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของจำเลยที่ 1 ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ
ตัวอย่างสัญญาประนีประนอมยอมความ (คดีกู้ยืม) เรื่อง ผิดสัญญากู้ยืมเงิน ข้าพเจ้า โจทก์และจำเลย ขอทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลมีข้อความตามที่จะกล่าวต่อไปนี้ ข้อ 1. จำเลยตกลงชำระหนี้ให้แก่โจทก์เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 1, 000, 000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) โดยผ่อนชำระเป็นรายงวดๆละเดือน เดือนละไม่ต่ำกว่า 5, 000 บาท(ห้าพันบาทถ้วน) ให้เสร็จสิ้นภายใน 48 งวด โดยเริ่มชำระงวดแรกภายในวันที่ 1 มกราคม 2555 งวดต่อไปทุกวันที่ 1 ของเดือนถัดไปจนกว่าจะชำระให้เสร็จสิ้นแก่โจทก์ โดยชำระผ่านบัญชีธนาคารหมายเลข 123-456-7890 ธนาคารกรุงเทพ ประเภทสะสมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายใจดี มีทวง หรือช่องทางการชำระเงินที่โจทก์กำหนด ข้อ 2. หากจำเลยผิดนัดงวดใดงวดหนึ่ง ให้ถือว่าผิดนัดในส่วนที่ค้างชำระทั้งหมด ยินยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ในยอดหนี้ตามทุนทรัพย์ หักด้วยจำนวนเงินที่จำเลยชำระมาภายหลัง พร้อมทั้งยินยอมเสียดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินที่ค้างชำระ แต่ต้องไม่เกินต้นเงินจำนวน 1, 000, 000 บาท(หนึ่งล้านบาทถ้วน) นับแต่วันที่ผิดนัดชำระเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้เสร็จสิ้นแก่โจทก์ ข้อ 3. ค่าทนายความ และค่าฤชาธรรมเนียมในส่วนที่ศาลไม่สั่งคืนให้เป็นพับ ข้อ 4.
นั้น แม้สัญญาเช่าซื้อ ข้อ 13 กำหนดว่า โจทก์จะมีหนังสือแจ้งชื่อผู้ทำการขาย วัน เวลา สถานที่ที่ทำการขาย ราคาที่ขายได้ และรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขายเพียงเท่าที่ได้ใช้จ่ายไปจริงโดยประหยัดตามความจำเป็นและมีเหตุผลอันสมควร รวมทั้งจำนวนเงินที่จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดในส่วนที่ขาดอยู่ตามสัญญา ในกรณีการขายโดยวิธีประมูลหรือขายทอดตลาดที่เหมาะสมให้จำเลยที่ 1 ทราบภายใน 15 นับแต่วันที่ทำการขาย แต่สัญญาข้อ 13 ดังกล่าว ตลอดจนประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาฯ ข้อ 4 (5) ข. หาได้กำหนดว่า หากโจทก์ไม่แจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว ให้ถือว่าจำเลยที่ 1 เป็นอันหลุดพ้นความรับผิดในส่วนที่ขาดอยู่ตามสัญญาแต่อย่างใดไม่ ทั้งประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาฯ ข้อ 4 (5) ก. กำหนดว่า ก่อนขายให้บุคคลอื่น ผู้ให้เช่าซื้อต้องแจ้งล่วงหน้าให้ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันทราบ เป็นหนังสือไม่น้อยกว่า 7 วัน เพื่อให้ผู้เช่าซื้อใช้สิทธิซื้อได้ตามมูลหนี้ส่วนที่ขาดอยู่ตามสัญญาเช่าซื้อ ประกาศฉบับดังกล่าวหาได้กำหนดว่า ก่อนนำรถยนต์ออกขายให้บุคคลอื่น ผู้ให้เช่าซื้อต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้เช่าซื้อทราบชื่อผู้ทำการขาย วัน เวลา สถานที่ที่ทำการขายก่อนแต่อย่างใดไม่ ส่วนที่สัญญาข้อ 13 กำหนดด้วยว่า โจทก์จะนำรถยนต์ตามสภาพที่รับคืนออกขายให้แก่บุคคลอื่น แต่ระยะทางการใช้งานตามที่ระบุในหนังสือแสดงเจตนาคืนรถเอกสารหมายเลข จ.
ศ. 2555 ข้อ 4 (5) ก. และ ข. โจทก์มิได้ขายรถยนต์ตามสภาพที่รับมาจากจำเลยที่ 1 นั้น ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่า การที่จำเลยที่ 1 ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่งวดที่ 14 เป็นต้นมา 3 งวดติดกัน โจทก์จึงมีหนังสือบอกกล่าวเอกสารหมาย จ. 7 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ทวงถามให้ชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างรวม 6 งวด ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ หากพ้นกำหนดแล้วไม่ชำระให้ถือเอาหนังสือฉบับนี้เป็นการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อทันที ซึ่งแม้พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาปรากฏเหตุขัดข้องที่ส่งหนังสือบอกกล่าวทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับให้แก่จำเลยที่ 1 ไม่ได้ เพราะเหตุว่าจำเลยที่ 1 ไม่มารับภายในกำหนดตามซองจดหมายและใบตอบรับในประเทศเอกสารหมาย จ. 8 แต่กรณีดังกล่าวสัญญาเช่าซื้อข้อ 17 วรรคสาม ให้ถือว่าได้มีการส่งหนังสือบอกกล่าวให้แก่จำเลยที่ 1 โดยชอบแล้ว โดยเนื้อความในหนังสือบอกกล่าวข้างต้นเป็นเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ ข้อ 10 (ก) ที่ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจให้ควบคุมสัญญา พ. 2555 เอกสารหมาย จ.
ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายใบเตย จำเลย - บริษัทสหมงคลประกันภัย จำกัด *หมายเหตุ: เพื่อเป็นการสงวนข้อมูลส่วนบุคคล เว็บไซต์ ใช้ระบบ AI ในการตรวจค้นชื่อบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องในคดีและแปลงเป็นนามสมมุติ ชื่อบุคคลธรรมดาที่ปรากฎจึงอาจเป็นนามสมมุติ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 572 863 879วรรคหนึ่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 55 55 ป. พ. ม. 572 ม. 863 ม. 879วรรคหนึ่ง ป. วิ. พ. โจทก์เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์มาจากบริษัท ง. โจทก์จึงมีเพียงสิทธิครอบครองและใช้ประโยชน์ในรถยนต์ที่เช่าซื้อ การที่โจทก์ทำสัญญาขายรถยนต์คันดังกล่าวให้แก่ บ. โดยมีข้อตกลงให้ บ. ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อส่วนที่เหลืออันเป็นการโอนสิทธิการเช่าซื้อโดยบริษัท ง. ไม่ได้ตกลงด้วย จึงเป็นการโอนสิทธิการเช่าซื้อโดยไม่ชอบและไม่มีผลผูกพันบริษัท ง. ผู้ให้เช่าซื้อ ทำให้โจทก์ยังคงต้องรับผิดต่อบริษัท ง. ตามสัญญาเช่าซื้อเช่นเดิม และหากมีการชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว รถยนต์ที่เช่าซื้อก็ตกเป็นสิทธิของโจทก์ ตาม ป. มาตรา 572 ทำให้โจทก์สามารถโอนรถยนต์ทางทะเบียนให้แก่ บ. ต่อไปได้ การที่ บ. ครอบครองรถยนต์ตามสัญญาซื้อขายดังกล่าวจึงเป็นเพียงการครอบครองแทนโจทก์ โจทก์จึงยังเป็นผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เช่าซื้อในขณะทำสัญญาประกันภัย สัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงมีผลผูกพันตามกฎหมาย เมื่อรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้สูญหายไป โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลย ขณะเกิดเหตุ บ.
ข้ามไปเนื้อหา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี "ตกเป็นพับ" เป็น คำกริยา ใน ภาษาไทย และเป็นสำนวน กฎหมายไทย ที่ค่อนข้างโบราณแต่ยังปรากฏอยู่ในกฎหมายปัจจุบัน มีความหมายตาม พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ. ศ. 2542 ว่า "นับเป็นสูญ" [1] และมีคำใกล้เคียงคือ "เป็นพับ" หมายความว่า "ตัดเป็นสูญ" "ตกเป็นพับ" [ แก้] คำว่า "ตกเป็นพับ" นั้น พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.