ศ. 2564 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ก็ตัดสินใจคงอัตรา VAT 7% ออกไปอีก และเป็นการอนุมัติรวดเดียว 2 ปี คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 โดยมีเหตุผลสำคัญเรื่องการรักษาการบริโภค และสนับสนุนการลงทุนของธุรกิจช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 -------------------------------- อ้างอิง: กรมประชาสัมพันธ์, taxbugnoms
ผู้บริโภคต้องรู้! VAT 7% คืออะไร? เมื่อการซื้อสินค้าและบริการ หรือชำระค่าอาหารทุกครั้ง (ผ่านร้านค้าที่จดทะเบียน VAT) ผู้บริโภคไม่ได้จ่ายเฉพาะค่าสินค้าเท่านั้น แต่ต้องจ่ายค่า VAT 7% ที่รวมอยู่ในนั้นด้วย เวลาไปกินข้าวนอกบ้าน หลังจ่ายเงินค่าอาหารแล้วทางร้านจะยื่น " ใบกำกับภาษี " ให้คืนมา เพื่อแสดงราคาสินค้าและบริการทั้งหมดที่เราจ่ายไป ซึ่งจะมีค่า " VAT 7% " โชว์ในนั้นด้วย แล้ว VAT 7% คืออะไร?
ร. บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี) ดังนี้ งบการศึกษา, งบสวัสดิการผู้สูงอายุ, งบด้านความมั่นคง, งบการขนส่ง, งบสาธารณสุขอื่น (รวมถึงบัตรทอง), งบโรงพยาบาล, งบตำรวจ, งบในลักษณะงานอื่นๆ รู้หรือไม่? เมื่อก่อนประเทศไทยเคยเก็บ VAT 10% อันที่จริงแล้วสำหรับประเทศไทย อัตรา VAT ที่แท้จริงอยู่ที่ 10% มาตั้งแต่ปี 2535 แต่ว่าเมื่อปี 2540 ได้มีการออกพระราชกฤษฎีกาลดอัตราภาษี VAT ซึ่งจะพิจารณาต่อในทุกๆ 2 ปี เหลือที่ 7% เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนในช่วงที่ประเทศเจอ "วิกฤติเศรษฐกิจการเงิน" หรือ วิกฤติต้มยำกุ้ง หลังจากนั้นตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เราจึงเห็น 7% มาตลอดจนถึงปัจจุบัน แทนที่จะเป็น 10% อย่างที่ควรจะเป็น ทำให้ก่อนหน้านี้ มีข้อเสนอจากหลายฝ่ายให้ปรับขึ้นภาษีมูค่าเพิ่ม (VAT) จาก 7% เป็น 10% แต่ในที่สุด ในช่วงเดือนสิงหาคม พ. ศ. 2564 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ก็ตัดสินใจ คงอัตรา VAT 7% ออกไปอีกรวดเดียว 2 ปี คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ไปจนถึง วันที่ 30 กันยายน 2566 โดยมีเหตุผลสำคัญเรื่องการรักษาการบริโภค และสนับสนุนการลงทุนของธุรกิจช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 -------------------------------- อ้างอิง: กรมประชาสัมพันธ์, taxbugnoms, itax
คำนวณภาษีซื้อ/ขาย และยอดค่าใช้จ่าย/รายได้ทางภาษี สำหรับกิจการจดVAT เมื่อมียอดค่าใช้จ่าย/รายได้ที่รวมVAT มาแล้ว จะต้อง – ถอดหาเฉพาะมูลค่าVAT เพื่อใช้เป็นภาษีซื้อ/ขาย – ใช้เฉพาะราคาก่อนVATเป็นค่าใช้จ่าย/รายได้ทางภาษี การคำนวณหัก ณ ที่จ่าย เมื่อมี VAT จะต้องคำนวณ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย จากยอดก่อน VAT เท่านั้น เช่น สมมติราคารวม VAT = 535 → ถอดได้ ราคาก่อน VAT = 500 → ถ้าต้องหัก ณ ที่จ่าย 3% จะคิดจาก 500×3%=15บาท ขอบคุณข้อมูล และ
ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบบริษัท ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หากรายได้จากการประกอบธุรกิจเกินกว่า 1. 8 ล้านบาท การจดภาษีมูลค่าเพิ่ม คือสิ่งที่ไม่ควรลืม – VATเก็บจากใคร? ใครจ่าย? VATเป็นภาษีที่เรียกเก็บจากผู้บริโภค "ผู้บริโภคเป็นคนจ่ายภาษี" คนขายหรือผู้ให้บริการไม่ต้องจ่าย VAT นี้ – แล้วใครถือเป็นผู้บริโภค? เพื่อเข้าใจง่ายๆ ผู้บริโภคก็คือคนที่ไม่ได้จด VAT นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไป พนักงานบริษัท และรวมไปถึงบริษัทห้างร้านที่ไม่ได้จด VAT ด้วย – ใครเป็นผู้ขายหรือผู้ให้บริการ? ผู้ขายหรือผู้ให้บริการที่ไม่ต้องเสีย VAT นี้ คือผู้ขายหรือผู้ให้บริการที่จด VAT แล้วนั่นเอง ซึ่งเป็นได้ทั้งรูปแบบบุคคลธรรมดา เช่น ร้านค้าข้างทางหรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ไม่ได้เปิดบริษัท แต่ว่ายอดขายเกิน 1.
30 บาท นั้นคือผู้บริโภคหรือลูกค้าต้องชำระเงินทั้งสิ้น 631. 30 บาท บุคคลที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มคือ ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจ วิชาชีพในรูปแบบของบุคคลธรรมดา คณะบุคคลห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคล นิติบุคคลใดๆที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือบริการ ทั้งหมดนี้หมายถึงผู้มีรายรับเกินกว่า 1. 8 ล้านบาท / ปี จะต้องมีหน้าที่ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นผู้ประกอบการจดเที่ยบ วิธีคำนวณภาษีที่ต้องชำระ ภาษีที่ต้องชำระ = ภาษีขาย - ภาษีซื้อ **ทำไมอยู่ๆ รัฐบาลจึงมีการเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10% จริงๆแล้วประเทศไทยได้มีการกำหนดภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ 7% มาทั้งแต่ปี พ. ศ. 2535 นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยบังคับใช้ภาษีมูลค่าเพิ่มและภายหลังประเทศไทยเกิดวิกฤต เศรษฐกิจต้มยำกุ้ง จึงได้มีการปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาเป็น 10% ในปี พ. 2540 ต่อมาปลายปี พ. 2540 ได้มีการเปลี่ยนรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ได้มีการปรับลดภาษีจาก 10% กลับมาเป็น 7% แต่ก็มีการปรับกลับไปกลับมาหลายครั้งแต่เนื่องด้วย สภาวะลอยตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จึงทำให้ยังคงใช้ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เหมือนเดิม สมัครเน็ตความเร็วอื่นๆ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook:
เวลาเราเดินดูของ แล้วเห็นป้ายราคาในหลายๆร้าน บอกราคาของนั้นๆ แล้วมีคำต่อท้ายว่า ราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (excluding vat) หรือ ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว (including vat) เคยสังสัยไหม ราคารวมvat กับ ราคาไม่รวมvat ตามป้ายราคาที่เห็นกัน แตกต่างกันอย่างไร? ราคาไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (excluding vat) หมายถึง ราคาสินค้าที่แสดงไว้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องจ่ายเงินเพิ่มตามภาษีvatจากป้าย ราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (including vat) หมายถึง ราคาสินคาที่แสดงไว้ได้บวกภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่มจากป้าย ตัวอย่าง ป้ายราคาของโน๊ตบุ๊ค แสดงราคา 10, 000 บาท และมีคำต่อท้ายว่า ราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม(vat) (excluding vat) หมายความว่า มูลค่าของโน๊ตบุ๊ค 10, 000 ภาษีมูลค่าเพิ่ม(vat) 700 รวม 10, 700 ตามตัวอย่าง ถ้าเป๊นราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม(vat)แล้ว (including vat) หมายความว่า มูลค่าของโน๊ตบุ๊ค 9345. 79 ภาษีมูลค่าเพิ่ม(vat) 654. 21 รวม 10, 000 สรุปว่า - ถ้าเป็นราคารวมvatแล้ว จะจ่ายเงินซื้อคอมฯ ตัวนี้ จำนวน 10, 000 บาท ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มจากป้าย - ถ้าเป็นราคายัง ไม่ รวมvat ต้องจ่ายเงินซื้อคอมฯ ตัวนี้ จำนวน 10, 700 บาท คือต้องจ่ายเงินเพิ่ม 700 จากที่โชว์ในป้ายราคา โปรแกรมคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย โปรแกรมคำนวณราคาก่อนบวก vat
การเงิน 05 เม. ย. 2565 เวลา 17:30 น. 534 ผู้บริโภคต้องรู้! VAT 7% คืออะไร? เมื่อการซื้อสินค้าและบริการ หรือชำระค่าอาหารทุกครั้ง (ผ่านร้านค้าที่จดทะเบียน VAT) ผู้บริโภคไม่ได้จ่ายเฉพาะค่าสินค้าเท่านั้น แต่ต้องจ่ายค่า VAT 7% ที่รวมอยู่ในนั้นด้วย เวลาไปกินข้าวนอกบ้าน หลังจ่ายเงินค่าอาหารแล้วทางร้านจะยื่น " ใบกำกับภาษี " ให้คืนมา เพื่อแสดงราคาสินค้าและบริการทั้งหมดที่เราจ่ายไป ซึ่งจะมีค่า " VAT 7% " รวมอยู่ในนั้นด้วย แล้ว VAT 7% คืออะไร? ทำไมผู้บริโภคต้องจ่ายเพิ่มจากราคาอาหาร กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนไปหาคำตอบพร้อมกัน VAT 7% คือ "ภาษีมูลค่าเพิ่ม" ที่รัฐกำหนดในอัตรา 7% ลองสังเกตดู เวลาซื้อสินค้าและบริการ หรือจ่ายค่าอาหารในร้านอาหารต่างๆ ทางร้านจะให้กระดาษใบเล็กๆ กลับมา (เรามักพูดติดปากกันว่าใบเสร็จ/บิล) ซึ่งกระดาษใบเล็กๆ นั้นก็คือ " ใบกำกับภาษี " "ใบกำกับภาษี" เป็นเอกสารหรือหลักฐานที่ทางร้านค้าต่างๆ ส่งให้เมื่อเรา หลังจากเราชำระเงินค่าสินค้าเรียบร้อย โดยจะมีตัวเลขบอกว่าเงินที่เราจ่ายไป มี "VAT" อยู่ในนั้นเท่าไหร่ ข่าวที่เกี่ยวข้อง: นับถอยหลัง VAT 7% เผยวันสิ้นสุด ก่อนเตรียมปรับเพิ่มเป็น 10% เปิดเหตุผล 'ครม. '
ร. บ.